โครงการเงินกู้สู้ไปด้วยกัน พร้อมข้อมูลคุณสมบัติ วงเงิน และเรื่องดอกเบี้ยถูกล่าสุด

กสิกรปล่อยสินเชื่อ เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” ช่วยธุรกิจในวิกฤต COVID-19

ร้านค้า และธุรกิจรายย่อย เปรียบเสมือนกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย แต่ในปัจจุบัน ธุรกิจเหล่านี้กำลังเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินที่ท่วมท้น เนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง หรือแทบจะไม่มีเลย ทำให้ร้านค้า และธุรกิจรายย่อยจำนวนมากประสบกับปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนไม่สามารถที่จะฝืนทนให้บริการได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ทางธนาคารกสิกรไทยปล่อยสินเชื่อ เงินกู้สู้ไปด้วยกัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และเป็นแรงผลักดันให้ร้านค้า และธุรกิจรายย่อยสู้ภัยโควิด19 นี้ไปด้วยกัน ส่วนคุณสมบัติ และเงื่อนไขในการสมัครสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์จะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดของสินเชื่อกสิกรสู้ไปด้วยกันนี้พร้อม ๆ กันเลย

เงินกู้สู้ไปด้วยกัน ช่วยร้านค้าฝ่าฝันวิกฤตโควิด

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ และร้านค้ารายย่อยที่กำลังประสบกับปัญหาทางการเงิน ภาระหนี้สิ้นท่วมท้น จนทยอยปิดตัวไปทีละรายสองราย ธนาคารกสิกรไทยจึงได้จัดทำโครงการเงินกู้สู้ไปด้วยกัน ขึ้นมา เพื่อช่วยสภาพคล่อง และประคับประคองให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้

เงินกู้สู้ไปด้วยกัน เป็นโครงการพิเศษของธนาคารกสิกรไทย ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้บรรดาร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยปล่อยกู้สินเชื่อกสิกรสู้ไปด้วยกันในวงเงินสูงสุด 3 แสนบาท ผ่อนชำระได้นานถึง 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยถูกเพียงแค่ 3% ต่อปีเท่านั้น เพื่อเป็นแรงผลักดัน และช่วยเหลือให้พี่น้องผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ได้มีเงินทุนในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สามารถสมัครสินเชื่อกสิกร 300,000 บาท ทาง www.kasikornbank.com ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าวงเงินจะเต็ม

สินเชื่อกสิกร 300,000 บาท เงินทุนเพิ่มกำลังใจให้ผู้ประกอบการ

เมื่อก่อน ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็มักจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ มากมาก ทุกวันนี้กลับพบเจอแต่ความเงียบเหงาร้านค้าต่างพากันปิดตัวไป เพราะแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว ธนาคารกสิกรจึงได้ปล่อยสินเชื่อเงินกู้สู้ไปด้วยกันพื่อเป็นเงินทุนในการประกอบธุรกิจ และส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ประกอบการรายย่อยทุก ๆ คน  โดยสินเชื่อกสิกรสู้ไปด้วยกันมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

  • วงเงินสูงสุดจากการสมัครสินเชื่อ k plus อยูที่ 300,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 3% ต่อปี
  • พักชำระเงินต้นเป็นเวลา 3 เดือน
  • ระยะเวลากู้นานสุดถึง 5 ปี

นอกจากการปล่อยเงินกู้สู้ไปด้วยกัน แล้ว ทางกสิกรยังช่วยสนับสนุนร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ในการเพิ่มช่องทางในการขายบน K+ market ในแอปพลิเคชัน K PLUS รวมไปถึงการโปรโมทร้านค้าผ่านทางสื่อต่าง ๆ ของธนาคาร เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย ให้ร้านมีรายได้ และสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นอีกด้วย

เงินกู้อนุมัติไว ขอกู้ง่าย ไม่ใช้หลักค้ำประกัน

สำหรับใครที่สนใจอยากจะยื่นกู้สินเชื่อเงินกู้สู้ไปด้วยกัน เพื่อนำเงินไปหมุนเเวียนในการประกอบกิจการ ต้องขอบอกเลยว่าสินเชื่อกสิกร 300,000 บาทนี้ เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่อนุมัติไว และมีเงื่อนไขในการขอกู้ที่ง่ายดายมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะแค่มีรายการเดินบัญชีกับธนาคารอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ไม่ต้องใช้เอกสาร หรือหลักค้ำประกันใด ๆ สามารถยื่นขอกู้สินเชื่อออนไลน์ทาง www.kasikornbank.com ได้เลยง่าย ๆ โดยใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น

เป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ เลยทีเดียว เนื่องจากว่า ณ เวลานี้ ได้สิ้นสุดระยะเวลาในการปิดรับสมัครคำขอกู้สินเชื่อเงินกู้สู้ไปด้วยกันไปเป็นที่้เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตาม มาตรการช่วยเหลือกสิกรไม่ได้มีเพียงแค่สินเชื่อเงินกู้สู้ไปด้วยกันอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทางธนาคารกสิกรไทยยังมีมาตรการพักชำระหนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME และรายย่อยที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการควบคุมของภาครัฐ ด้วยการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยเริ่มการพักชำระหนี้ตั้งแต่งวดการชำระหนี้ในเดือน ก.ค. 2567 เป็นต้นไป

จนถึงทุกวันนี้ใกล้จะสิ้นปี 2024 แล้ว เราไม่ยังสามารถที่จะรู้ได้เลยว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะจบลงเมื่อไหร่ สิ่งที่เราทำได้ มีเพียงแค่การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อยทั้งหลายนั้น ก็มีสินเชื่อเงินกู้สู้ไปด้วยกัน จากธนาคารกสิกรไทย เป็นตัวช่วยในการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างมั่นคงไม่แพ้สินเชื่อกรุงไทยไม่มีหลักทรัพย์อาชีพอิสระเลย

คุณอาจชอบ...